วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ปลูกไผ่แก้จน ปลูกไผ่แล้วรวย ต้องการพื้นที่ปลูกไผ่จำนวนมาก มีตลาดรองรับผลผลิตชัวร์


           เนื่องจากปัจจุบันนี้มีการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิม ค่าครองชีพที่สูง รายได้ไม่พอกับรายจ่าย สังคมขาดการแบ่งปัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เหมือนสมัยก่อน แต่ละคนแต่ละครอบครัวจึงต้องดิ้นรนกันเอาตัวรอด เนื่องมาจากรายได้ที่จะนำมาจุนเจือครอบครัวมีไม่เพียงพอ อีกทั้งสภาพแวดล้อมในปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การทำเกษตรก็ยากลำบากขึ้นกว่าแต่ก่อน ผลผลิตราคาตกต่ำ แมลง ศัตรูพืช เพลี้ย เชื้อโรคต่างๆมีการพัฒนาการจนเกิดการดื้อยา การเกษตรสมัยนี้ทำยากกว่าสมัยก่อนมาก ทำให้การเกษตรยุคนี้มีการใช้สารเคมีกันแทบทุกหย่อมหญ้า จนก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย อาธิ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา กบ เขียด ลดน้อยลงกว่าแต่ก่อน บางชนิดก็สูญพันธุ์ไปแล้วก็มี หรือบางทีเชื้อโรค สารเคมี ก็ตกอยู่ในร่างกายของสัตว์เหล่านั้น เมื่อเรานำมารับประทานจึงทำให้ติดเชื้อโรคต่างๆตามไปด้วย อย่างที่มีข่าวให้เราได้ยินอยู่แทบทุกที่ เช่น หมาป่วยเป็นมะเร็ง วัวควายเป็นเนื้องอก ปาก เท้าเปื่อย ไก่ เป็ด เป็นไข้หวัดนก เป็นต้น ซึ่งทุกๆสาเหตุดังกล่าวสามารถติดต่อมาสู่มนุษย์ได้ อีกอย่างเมื่อเราใช้สารเคมีกันมากๆเข้า ดินก็ดี น้ำก็ดี อากาศก็ดี ล้วนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ดินเสีย ดินแน่น ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ไม่งามเหมือนแต่ก่อน น้ำก็เน่าเสีย อากาศทุกวันนี้ก็มีแต่มลภาวะหายใจไม่เต็มปอดซักที ดังนั้นเราต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ที่ปลายเหตุ หมายความว่า เราทำการเกษตร ทำนา ทำไร่ เราหยุดไม่ได้ แต่ทำเกษตรอย่างไรให้คุ้มค่ากับแรงกาย แรงใจ แรงทรัพย์ที่เราลงทุนไป อีกทั้งต้องปลอดภัยทั้งแก่ตนเอง ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมทั่วไป เราจะเลือกทำการเกษตรอะไรดี จึงจะคุ้มค่ามากที่สุด ไม่ต้องปลูกใหม่ ปลูกซ้ำ หรือลงทุนอยู่เรื่อยๆทุกๆปี สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเมื่อลงทุนลงแรงไปแล้วจะสำเร็จหรือไม่ต้องประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
1.              สิ่งที่เราจะปลูก จะลงมือทำ ตลาดมีความต้องการหรือไม่ จะขายที่ไหน ใครจะรับซื้อ
2.              สิ่งที่เราจะปลูก มีเชื้อโรค แมลง เพลี้ย วัชพืช รบกวนมากน้อยเพียงใด เพราะนั่นคือรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น
3.              เรามีความรู้ความชำนาญในการปลูกพืชเหล่านั้นหรือไม่
4.              ต้นทุนในการปลูก ในการผลิต สูงมากน้อยแค่ไหน คุ้มค่ากับการลงทุนและเสียเวลาหรือไม่
5.              การดูแล ป้องกัน รักษาพืชที่จะปลูก ยากไหม ปลอดภัยต่อตนเองและผู้บริโภคไหม อย่างเช่น ปลูกพริกแบบพาณิชย์ต้องฉีดยาเคมีวันเว้นวัน  เท่ากับตายผ่อนส่ง บางครอบครัวภรรยาต้องเป็นหม้ายเพราะสามีเป็นมะเร็งเสียชีวิตเพราะยาเคมี ซึ่งเราก็ได้ยินข่าวอยู่ร่ำไป บางทีเขาฉีดยาฆ่าหญ้าไว้ในนาแล้วไปรับจ้างดำนา ตายเพราะสูดดมเอายาฆ่าหญ้าก็มี หรือยาฆ่าหญ้าซึมเข้าตามแผลไปทำลายระบบต่างๆในร่างกายจนเสียชีวิตก็มี
           นี่คือเหตุผลที่ว่าเราจะปลูกอะไรดีจึงจะพอมีเงินเลี้ยงครอบครัว ยกระดับฐานะของตัวเอง และได้ใช้เงินที่เราหามา หมอพืชอานนท์ แห่งบ้านสวนสวรสฟาร์ม จึงมีโครงการเชิญชวนพ่อแม่พี่น้อง “ ปลูกไผ่แก้จน “ เพื่อยกระดับฐานะ เพื่อสร้างเงิน สร้างงาน สร้างรายได้ ให้เป็นกอบเป็นกำ เรามาดูกันครับว่า การปลูกไผ่แก้จนตามแนวทางการสร้างเงิน สร้างงาน สร้างอาชีพ ของบ้านสวนสวรสฟาร์ม จะแก้ปัญหาดังกล่าวที่ว่ามาได้จริงหรือไม่ อย่างที่เรารู้ๆกันอยู่ หน่อไม้เป็นพืชที่คนอีสาน และคนไทยทั้งประเทศ หรือต่างประเทศ นิยมบริโภคกันอย่างมาก แต่ผลผลิตที่มีในทุกวันนี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานีของเรา มีประชากรเป็นล้านคน แต่ไม่มีแปลงปลูกหน่อไม้ที่เพียงพอต่อความต้องการของคนทั้งจังหวัด ต้องนำเข้าหน่อไม้ทั้งสด ทั้งดอง มาจากแหล่งอื่นทั้งสิ้น ที่เห็นปลูกกันอยู่ทั่วๆไปก็พอแค่จำหน่ายในเขตหมู่บ้านและตำบลที่อาศัยอยู่เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องเข้าร่วมโครงการ “ปลูกไผ่แก้จน “ ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้หมดไปจากบ้านเรา
ด่วนนะครับ..ต้องการพื้นที่ปลูกเพียง 1,000 ไร่เท่านั้น..รายได้เฉลี่ย 1 ไร่ 1 แสนต่อปี ถ้าปลูกกันคนละ 5 ไร่ก็รับกันย่อยๆปีละ 500,000 บาทครับ...ไม่ยากอย่างที่คิดไว้เลยใช่ใหมครับ ติดต่อสอบถามเจ้าของโครงการปลูกไผ่แก้จนได้ที่ : บ้านสวนสวรส ฟาร์ม 090-9569093 , 089-6889946 Line Id : 0896889946

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น